แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 33
1
ซ่อมบำรุงอาคาร: วิธีเช็คน้ำรั่วซึม จากท่อประปา

ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน และยังเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆ ของทุกบ้าน หากเดือนไหนค่าน้ำ ค่าไฟสูง ก็จะต้องรับภาระเพิ่มมากขึ้น หากบางเดือนเราสังเกตว่า ค่าน้ำประปาสูงผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนสิ่งผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นในระบบน้ำประปาของบ้านเราอยู่ก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ หากบ้านไหนที่มีปัญหาแบบนี้ ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะนี่อาจจะเป็นสัญญาณว่ากำลังเกิดน้ำรั่วซึม หรือท่อประปารั่ว ที่ไหนสักแห่ง ทำให้ต้องเสียเงินเปล่าๆ

โดยที่ไม่ได้ใช้น้ำ แถมยังอาจทำให้บ้านเกิดน้ำท่วมขัง ส่งผลให้เกิดความชื้นและเชื้อรา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้บ้านผุพังได้เร็วขึ้น และอาจส่งผลไปถึงปัญหาของคนในครอบครัวได้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ท่อประปาที่วางอยู่ใต้ดินยากต่อการตรวจสอบและพบเห็น หากเกิดการรั่วไหลขึ้น สามารถสังเกตได้จาก อาการน้ำจะไหลอ่อนลงจากเดิม หรือพื้นที่ที่มีท่อแตก-รั่ว จะทรุดต่ำกว่าที่อื่น เนื่องจากดินหรือทรายใต้ดินเคลื่อนตัว หรือสังเกตดูว่า บริเวณนั้นๆอาจมีน้ำเปียกแฉะตลอดเวลา มีตะไคร่ขึ้น หรือมีหญ้าขึ้นมากกว่าที่อื่นๆ นั่นเป็นสัญญาณของการเกิดน้ำรั่วซึม ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเช็คน้ำว่ารั่วซึมจากท่อประปาหรือไม่

ก่อนอื่น เราต้องคอยสังเกตค่าน้ำของบ้านเราก่อน หากพบว่าค่าน้ำสูงผิดปกติกว่าทุกเดือน โดยที่พฤติกรรมการใช้น้ำของสมาชิกภายในบ้านไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้สันนิษฐานก่อนว่า ท่อประปาภายในบ้านเกิดการรั่วซึมหรือแตกอย่างแน่นอน อีกข้อแนะนำที่จะให้ผู้ใช้น้ำสามารถตรวจสอบการแตกรั่วของระบบประปาในอาคารได้โดยสะดวก

และสามารถเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้นหากมีการรั่วไหล ก็คือ การวางท่อประปาและอุปกรณ์ประปาต่าง ๆ ไว้เหนือพื้นดินเพื่อเป็นการง่ายต่อการตรวจสอบ และที่สำคัญทุกบ้านควรมีแบบแปลนการวางท่อน้ำภายในบ้านของเราว่ามีจุดต่อไปในที่ใดบ้างหรือมีจุดต่อวาล์วน้ำย่อยอยู่ที่จุดใดบ้าง แปลนนี้จะมีความสำคัญอย่างมากเวลาหาจุดรั่วหรือในการซ่อมบำรุงประปาของบ้านเรานั่นเอง

สำหรับวิธีการเช็กน้ำรั่วซึมจากท่อประปา ก่อนอื่น ปิดก๊อกน้ำทั้งหมดและดูที่มิเตอร์หรือมาตรวัดน้ำ หากตัวเลขที่หน้าปัดมิเตอร์น้ำยังคงเดินอยู่ แปลว่า มีน้ำรั่วซึมในบ้าน ตรวจดูก๊อกน้ำ ฝักบัว เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ที่ต่อท่อกับน้ำ เพราะน้ำรั่วนั้นอาจเกิดจากส่วนนี้ได้ ส่วนวิธีแก้ไขเบื้องต้น ถ้ารั่วที่ก๊อกน้ำหรือฝักบัวให้เปลี่ยนก๊อกน้ำหรือฝักบัว แต่ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าและเครื่องใช้อื่น ๆ ให้เรียกช่างเฉพาะทางมาซ่อมแซม

สำหรับชักโครกให้ตรวจดูโดยใส่สีย้อมผ้าลงในถังพักน้ำ ถ้าพบสีไหลลงในชักโครก แสดงว่า มีน้ำรั่วเกิดขึ้น ถ้าตรวจสอบดูแล้วไม่พบจุดรั่ว สันนิษฐานได้ว่า สาเหตุที่มีน้ำประปารั่วในบ้านนั้นน่าจะเกิดจากท่อประปาร้าวหรือแตก และให้เช็กหาจุดรั่วที่ท่อประปา ให้เช็กท่อประปารั่วในบ้านทีละจุด เพื่อความมั่นใจว่าจะพบจุดรั่วทั้งหมด

โดยใช้วิธีปิดวาล์วเช็กทีละส่วนของบ้าน โดยเริ่มจากการปิดวาล์วจ่ายน้ำที่ชั้นบนก่อน แล้วค่อยสลับไปเปิดวาล์วจ่ายน้ำชั้นล่าง ถ้าแต่ละชั้นมีวาล์วจ่ายน้ำหลายจุด ให้ปิดทั้งหมดและเปิดวาล์วทีละจุด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ระบุหาจุดรั่วได้ง่ายขึ้น และเมื่อเปิดเช็กทีละวาล์ว ให้ดูที่มิเตอร์ว่า ตัวเลขวัดปริมาณการใช้น้ำยังคงเดินอยู่หรือไม่ ถ้ายังเดินอยู่ ให้เดินหาจุดรั่วของท่อประปา เมื่อพบจุดรั่วซึมก็ควรเรียกช่างที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาแก้ไขทันที

 หากพบปัญหาและต้องการที่แก้ไข สามารถติดต่อ ทางเรามีบริการ ติดตั้งและบำรุงรักษาระบบประปา ออกแบบท่อน้ำในอาคาร ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำในอาคาร และระบบจัดการแบบครบวงจร โดยเราจะทำการประเมินวิเคราะห์และออกแบบวางแผนบำรุงรักษา ไม่เพียงแผนการซ่อมแซมตามปกติที่ต้องเข้าดูแลอย่างรวดเร็วเท่านั้น การวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่ระเอียดรอบคอบ

เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารบ้านเรือนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้น้ำได้อย่างไม่สะดุด เพราะน้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เราเล็งเห็นถึงความสะดวกสบายของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และยังทำให้บ้านของคุณน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

2
เที่ยววัด ไหว้พระ 10 วัด กรุงเทพฯ เสริมบุญบารมีต้อนรับสิ่งใหม่ ๆ

ชวนไหว้พระ 10 วัดรอบกรุงเทพฯ เป็นวัดที่อยู่ใกล้กับสนามหลวง สามารถจัดทริปไหว้พระ 10 วัดกรุงเทพฯ ใน 1 วันได้ เป็นที่เที่ยวกรุงเทพฯ ดี ๆ ที่สามารถเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว

          สำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ใคร ๆ ก็อยากที่จะหาสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเอง การไปไหว้พระตามวัดสำคัญต่าง ๆ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ วันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 วัดใกล้สนามหลวงมาฝากกัน เพื่อให้สามารถจัดทริปไหว้พระ 10 วัด ในกรุงเทพฯ ได้แบบสบาย ๆ ไปดูกันค่ะว่าจะมีที่ไหนบ้าง

1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

          วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เป็นวัดที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ด้วยเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระคู่บ้านคู่เมืองของเมืองไทย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 พร้อมกับการสร้างพระบรมมหาราชวังและกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

          นอกจากพระแก้วมรกตแล้ว ภายในยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ต่าง ๆ อันมีสถาปัตยกรรมที่งดงามให้ได้เที่ยวชมอีกมากมาย เช่น พระอุโบสถ, ศาลาราย, พระศรีรัตนเจดีย์, ปราสาทพระเทพบิดร หรือพระพุทธปรางค์ปราสาท, พระมณฑป, หอมณเฑียรธรรม, หอคันธารราษฎร์, หอพระนาก, พระวิหารยอด, นครวัดจำลอง, พระโพธิธาตุพิมาน, พระบรมราชานุสาวรีย์ประจำรัชกาล, พระอัษฎามหาเจดีย์ หรือพระปรางค์แปดองค์, พระมณฑปยอดปรางค์ และหอระฆัง เป็นต้น

          วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักพระราชวัง โทรศัพท์ 0 2623 5500 ต่อ 3100

2. วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

          วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ตั้งอยู่บริเวณถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ถือได้ว่าเป็นอีกวัดที่สำคัญของกรุงเทพฯ ด้วยมีพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์เคยมาผนวชอยู่ที่นี่ แต่เดิมวัดแห่งนี้มีชื่อว่า "วัดใหม่" โดยเมื่อปี พ.ศ. 2379 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงอาราธนาสมเด็จพระอนุราชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎฯ (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) ซึ่งทรงผนวชเป็นพระภิกษุประทับอยู่วัดสมอราย (คือวัดราชาธิวาสในปัจจุบัน) เสด็จมาอยู่ครอง และสมเด็จพระอนุราชาธิราชเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ก็ทรงได้ปรับปรุงวางหลักเกณฑ์ความประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามพระธรรมวินัย

          ปัจจุบันวัดบวรนิเวศราชวรวิหารเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมสถาปัตยกรรมของอาคารต่าง ๆ พร้อมทั้งไหว้พระขอพร โดยมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น พระอุโบสถ, พระเจดีย์ใหญ่, วิหารพระศาสดา, พระตำหนักเพชร, พระตำหนักจันทร์, หอระฆัง, หอไตร และพระตำหนักใหญ่ เป็นต้น

          ทั้งนี้วัดบวรนิเวศราชวรวิหารยังเป็น 1 ใน 2 วัด ที่เป็นสถานที่เก็บพระบรมราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้มีการบรรจุพระบรมราชสรีรางคารไว้ที่ฐานของพระพุทธบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ ภายในพระอุโบสถ โดยมีการเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะด้วย

3. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

          วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นวัดประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2412 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ซึ่งมีการผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมไทยและตะวันตกเข้าด้วยกัน จนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธอังคีรส พระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงาม ประดิษฐานอยู่บนฐานของชุกชีหินอ่อนจากอิตาลี นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังเป็นวัดประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 อีกด้วย เพราะพระองค์ได้รับพระราชภาระในการทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารจึงเปรียบเสมือนวัดประจำพระองค์เช่นกัน

          ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร มีสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ พระเจดีย์, พระอุโบสถ, พระระเบียงหรือพระวิหารคด, พระวิหาร, วิหารทิศหรือวิหารมุข, ศาลาราย, หอระฆังและหอกลอง เป็นต้น

          และที่สำคัญยังเป็น 1 ใน 2 วัด ที่เป็นสถานที่เก็บพระบรมราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้บรรจุพระบรมราชสรีรางคารไว้ที่ถ้ำศิลาใต้ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส ภายในพระอุโบสถ เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะทุกวัน ในเวลา 08.00-10.00 น. และ 16.00-18.30 น.

4. วัดอรุณราชวราราม

          วัดที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ ต่างต้องแวะไปเที่ยวชมวัดอรุณฯ กันสักครั้ง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับฝั่งของพระบรมมหาราชวัง เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมมีชื่อว่า วัดมะกอก ต่อมาสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชได้โปรดย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี และได้มีการล่องเรือมาจนสว่างที่นี่ จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดแจ้ง จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ก็ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ และพระราชทานนามว่า วัดอรุณราชธาราม ต่อมาสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์เพิ่มอีก และเปลี่ยนชื่อเป็น วัดอรุณราชวราราม

          ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร มีสัญลักษณ์สำคัญ คือ พระปรางค์ ซึ่งมีลักษณะทรงขอม องค์พระปรางค์ประธานสูงถึง 81.85 เมตร ประดับด้วยชิ้นเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญจรงค์สีต่าง ๆ อย่างสวยงาม เปิดให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชมและกราบไหว้ขอพรทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.

5. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

          วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งแรกโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยได้มีการก่อสร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2332 และได้เปลี่ยนจากชื่อ วัดโพธาราม เป็น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ก็ได้ทรงเปลี่ยนสร้อยนามใหม่เป็น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

          การบูรณปฏิสังขรณ์ที่สำคัญอีกช่วงหนึ่งคือสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้มีการสร้างปูชนียวัตถุและปูชนียสถานเพิ่มเติม และขยายอาคารบางหลังให้ใหญ่ขึ้น มีนายช่างจากหลากหลายแขนงมาช่วยกันทำงานด้านศิลปกรรม จนมีความสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน

          ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร มีสิ่งที่น่าสนใจภายในวัด เช่น พระวิหารพระพุทธไสยาส, พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล, พระอุโบสถ, พระมณฑป, พระระเบียง, พระวิหารทิศ, พระวิหารคด และศาลาการเปรียญ เป็นต้น

6. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

          เป็นอีกสัญลักษณ์สำคัญของไทยที่เรามักจะเห็นติดไปกับภาพของเสาชิงช้า โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนตีทองและถนนบำรุงเมือง หน้าวัดหันออกทางถนนอุณากรรณ สร้างโดยพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์พระราชทานนามว่า "วัดมหาสุทธาวาส" แต่พระวิหารที่มีการสร้างใหม่ยังไม่ทันเสร็จก็สิ้นรัชกาลเสียก่อน ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดให้ทำการบูรณะสร้างพระวิหารจนสำเร็จแล้ว โปรดให้สร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ สัตตมหาสถาน และสร้างกุฏิสำนักสงฆ์ประดิษฐานสังฆาราม จากนั้นพระราชทานนามว่า "วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร"

          ภายในวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีด้วย

          ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พระอุโบสถ, พระวิหาร, พระวิหารคด หรือพระระเบียง, ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช, ศาลาวิหารทิศ และหอระฆัง เป็นต้น

7. วัดราชนัดดารามวรวิหาร

          วัดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยเป็นที่ตั้งของโลหะปราสาท ซึ่งมีหลงเหลือเพียงแห่งเดียวของโลกเท่านั้น วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซึ่งพระองค์ทรงทรงสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแก่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี จึงทรงพระราชทานนามว่าวัดราชนัดดาราม เมื่อปี พ.ศ. 2386 ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย อาทิ พระอุโบสถ,  พระวิหาร, ศาลาการเปรียญ, กำแพงแก้วและศาลาราย, หอระฆัง, เขาพระฉาย ฯลฯ

          และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ "โลหะปราสาท" พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2389 มีการจำลองแบบมาจากประเทศศรีลังกา มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีสถาปัตยกรรมแบบไทย เป็นอาคาร 7 ชั้น ลดหลั่นความกว้างกันลงมา อาคารชั้นล่าง ชั้นที่ 3 และชั้นที่ 5 เป็นคูหาและระเบียงรอบ ส่วนชั้นที่ 2 ชั้นที่ 4 และชั้นที่ 6 ทำเป็นคูหาจตุรมุขมียอดเป็นบุษบกชั้นละ 12 ยอด และชั้นที่ 7 เป็นยอดปราสาทจตุรมุขสำหรับประดิษฐานพระบรมธาตุ รวมเป็น 37 ยอด แต่ละชั้นจะมีบันไดวนตรงกลางปราสาทให้เดินขึ้นไป

          ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2224 8807

8. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

          เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ อาทิ พระราชวังดุสิต พระที่นั่งอนันตสมาคม พระตำหนักจิตลดารโหฐาน สวนสัตว์ดุสิต และทำเนียบรัฐบาล โดยจะตั้งอยู่บนถนนนครปฐมติดคลองเปรมประชากร เป็นอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร

          ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ช่วงปี พ.ศ. 2369 ได้เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพนมวัน กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ (ต้นราชสกุลพนมวัน) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้รับการโปรดเกล้าจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นแม่ทัพรักษาพระนคร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพนมวัน กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ ได้ทรงตั้งกองบัญชาการทัพที่วัดแหลม (วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามในปัจจุบัน) และเมื่อได้ปราบกบฏเรียบร้อยแล้ว จึงร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้พร้อมพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 4 พระองค์

          ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดเบญจบพิตร" ซึ่งหมายถึงวัดของเจ้านาย 5 พระองค์ จนปี พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้โปรดให้เพิ่มสร้อยต่อท้ายเป็น "วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม"

          ภายในวัดมีสิ่งสำคัญมากมาย อาทิ พระอุโบสถ, พระพุทธชินราช, พระระเบียง, ศาลาหน้าพระอุโบสถ, ต้นพระศรีมหาโพธิ และศาลาอุรุพงษ์ เป็นต้น

9. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

          วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง แลนด์มาร์กที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค และคลองรอบกรุง แขวงบ้านบาตรตัดกับคลองบางลำพู เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดสระแก และได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดสระเกศ โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม และพระราชทานนามเสียใหม่

          สิ่งที่โดดเด่นมากของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ก็คือ "พระบรมบรรพต" โดยได้เริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งสูงประมาณ 77 เมตร ด้านบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

10. วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

          อีกวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเมืองไทย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพระอารามหลวงของพระมหากษัตริย์ตามโบราณราชประเพณี

          ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ, หอไตร, หอพระจอม, ศาลาทรงไทย และหอระฆัง ฯลฯ และสิ่งที่ห้ามพลาด ก็คือ "ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระวิหารหลวง" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีสิบสองเดือน นอกจากนี้ในวิหารยังมีภาพสุริยุปราคาในสมัยรัชกาลที่ 4 และพระประธาน "พระพุทธสิหังคปฏิมากร ปางสมาธิ" โดยมีพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่ภายในพระพุทธอาสน์ของพระประธานองค์นี้ด้วย

3
สร้างอาชีพ ด้วยการขายอาหารไทยขึ้นอยู่กับความถนัดและเงินทุนของคุณ

การขายอาหารไทยสามารถเป็นธุรกิจที่ทำกำไรและเติมเต็มชีวิตได้ ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากแผงขายอาหารเล็กๆ ร้านอาหาร หรือบริการส่งอาหารออนไลน์ อาหารไทยได้รับความนิยมทั่วโลกเนื่องจากมีรสชาติที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมของสมุนไพรและรสชาติที่สมดุล หากคุณหลงใหลในการทำอาหารและต้องการเปลี่ยนการทำอาหารให้เป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง

การสร้างรายได้หลักจากการขายอาหารไทยนั้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความถนัดและเงินทุนของคุณ ต่อไปนี้คือแนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้ได้นี่คือแนวทางที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ

1. เลือกช่องของคุณ
อาหารไทยมีอาหารให้เลือกหลากหลาย การเลือกกลุ่มอาหารเฉพาะจะช่วยให้คุณโดดเด่นในตลาดได้ ลองพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้:
แผงขายอาหารริมทาง – ตัวเลือกยอดนิยมได้แก่ ผัดไทย, ส้มตำ และหมูปิ้ง
จัดส่งถึงบ้าน – เตรียมอาหารพร้อมรับประทานหรือชุดอาหารพร้อมส่วนผสมให้ลูกค้าปรุงที่บ้าน
ร้านอาหารเฉพาะทาง – เน้นอาหารไทยโดยเฉพาะ เช่น อาหารเหนือ ใต้ อีสาน
ของหวานและเครื่องดื่ม – ขายขนมไทย เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง หรือ ชาไทย

2. ให้แน่ใจว่าส่วนผสมมีคุณภาพสูง
เคล็ดลับความอร่อยของอาหารไทยคือวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพ ใช้สมุนไพร เครื่องเทศ และผลผลิตจากท้องถิ่นที่มีคุณภาพสูงเพื่อรักษารสชาติที่ดีที่สุดและดึงดูดลูกค้าประจำ

3. สร้างจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ (USP)
ในการแข่งขันในธุรกิจอาหาร คุณต้องมีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์:
ความแท้จริง – นำเสนอรสชาติแบบดั้งเดิมด้วยสูตรโฮมเมด
ทางเลือกที่ใส่ใจสุขภาพ – นำเสนออาหารไทยแคลอรี่ต่ำ มังสวิรัติ หรือออร์แกนิก
ความสะดวกสบาย – ขายอาหารแช่แข็งหรือบรรจุหีบห่อล่วงหน้าสำหรับลูกค้าที่ยุ่งวุ่นวาย
แนวคิดแบบผสมผสาน – ทดลองกับรสชาติแบบไทยๆ ในเมนูอาหารสมัยใหม่ เช่น เบอร์เกอร์หรือซูชิโรลที่ได้แรงบันดาลใจจากไทย

4. พัฒนากลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ
การตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดลูกค้าและทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต ลองพิจารณากลยุทธ์เหล่านี้:
การปรากฏตัวบนโซเชียลมีเดีย – ใช้แพลตฟอร์มเช่น Facebook, Instagram และ TikTok เพื่อแสดงอาหารจานต่างๆ โปรโมชั่น และบทวิจารณ์ของลูกค้าของคุณ
พันธมิตรในการจัดส่งอาหาร – เข้าร่วมแอปเช่น Grab, Uber Eats หรือ Foodpanda เพื่อขยายการเข้าถึงของคุณ
โปรแกรมความภักดี – เสนอส่วนลดหรือของแถมฟรีให้กับลูกค้าประจำ
ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล – ร่วมมือกับบล็อกเกอร์อาหารเพื่อโปรโมตแบรนด์ของคุณ

5. รับรองใบอนุญาตและมาตรฐานสุขอนามัยที่เหมาะสม
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจของคุณปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขภาพในท้องถิ่นและได้รับใบอนุญาตด้านอาหารที่จำเป็น รักษาห้องครัวให้สะอาดและดูแลความปลอดภัยของอาหารเพื่อสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า

6. จัดการต้นทุนและราคาอย่างชาญฉลาด
เพื่อรักษาผลกำไร:
จัดหาวัตถุดิบเป็นจำนวนมากเพื่อลดต้นทุน
กำหนดราคาที่สามารถแข่งขันได้โดยการวิเคราะห์ราคาของคู่แข่ง
ลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุดด้วยการบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม

7. ขยายธุรกิจของคุณ
เมื่อธุรกิจของคุณเริ่มเติบโตแล้ว ลองพิจารณากลยุทธ์การเติบโตเหล่านี้:
เปิดสาขาหรือรถขายอาหารหลายแห่งเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ
ให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับงานอีเว้นท์และลูกค้าองค์กร
ขายหลักสูตรสอนทำอาหารไทยออนไลน์หรือในสถานที่จริง

การเริ่มต้นธุรกิจอาหารไทยสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้หากดำเนินการด้วยการวางแผนและความทุ่มเทที่ถูกต้อง ด้วยการมุ่งเน้นที่คุณภาพ การตลาด และความพึงพอใจของลูกค้า คุณสามารถเปลี่ยนความรักในการทำอาหารของคุณให้กลายเป็นแหล่งรายได้ที่ทำกำไรได้และยั่งยืน

4
เด็กที่มีปัญหาสุขภาพฟันแบบไหน ที่ควรเข้ารับการจัดฟันเด็ก

สุขภาพปากและฟัน มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมีมากมายมีผลกระทบกระเทือนต่อภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งล้วนแล้วแต่สามารถป้องกันได้เกือบทั้งสิ้น การดูแลสุขภาพฟันในเด็กถือเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่ดูแลเอาใจใส่ให้มาก ควรปลูกฝังให้เด็กฝึกหัดแปรงฟันอย่างถูกวิธี หมั่นตรวจฟันลูกหรือหัดให้ลูกตรวจฟันด้วยตนเองทุก ๆ วันหลังแปรงฟัน และควรพาไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี นอกจากนี้สุขภาพช่องปากและฟัน สามารถดูแลรักษาและบำรุงได้ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้สด และนมสด เพื่อที่จะได้กระตุ้นขากรรไกรของเด็กให้เจริญเติบโตได้สัดส่วน และควรจะให้เด็กลดการกินลูกอม ขนมหวานหรืออาหารที่เป็นการทำลายฟันด้วย ในปัจจุบันวงการทันตกรรมได้มีการพัฒนา โดยเด็กสามารถจัดฟันได้เหมือนผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังมีฟันน้ำนมอยู่ก็ตาม เพราะเป็นการแก้ปัญหาฟันผิดปกติของเด็ก ๆ โดยไม่ต้องรอให้โต โดยช่วยให้สุขภาพฟันดี และรองรับการขึ้นของฟันแท้ในอนาคตได้ด้วย

โดยการ จัดฟันในเด็ก สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6-7 ขวบ พ่อแม่ผู้ปกครองควรนำเด็ก ๆ อายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์ผู้ทำการจัดฟันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่นเพราะเป็นช่วงที่ฟันกำลังพัฒนาและขากรรไกรกลังเจริญเติบโต และถ้าตรวจพบปัญหาฟันซ้อน การสบฟันผิดปกติ จะสามารถแก้ไขได้ง่ายมากกว่าการจัดฟันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ก็คือ ทำให้การขึ้นของฟันแท้ สามารถขึ้นได้อย่างถูกต้อง และจะไม่มีความผิดปกติในการขึ้นของฟันแท้ ทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหา ความผิดปกติของโครงหน้าได้อีกด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะหมั่นดูแล สังเกตความผิดปกติของฟันของเด็กอย่างสม่ำเสมอ หากมีความผิดปกติหรือสัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ควรรีบพาไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข ที่คลินิกเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสุขภาพช่องปากของเด็ก และยังมีบริการการจัดฟันในเด็ก ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันของเด็กได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เด็กเติมโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในรอยยิ้มและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

สำหรับสัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กควรเข้ารับการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติ คือเด็กที่มีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่มีปัญหาฟันหน้ายื่น เพราะปัญหาดังกล่าว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแตกหักของตัวฟัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม ตกบันได ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายต่อสุขภาพฟันอย่างมาก หากเกิดอุบัติเหตุ

และเด็กที่มีปัญหาการที่ฟันสบกันผิดปกติ เพราะอาจทำให้ขากรรไกรเติบโตแบบไม่สมดุลกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการขึ้นของฟันแท้ได้ เด็กที่มีปัญหาช่องฟันห่าง เพราะช่วยปรับให้ซี่ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และง่ายต่อการขึ้นของฟันแท้ เด็กที่มีปัญหาในเรื่องของขากรรไกรไม่ได้สัดส่วนกับหน้า เพราะเจริญเติบโตผิดปกติ

การกลืนอาหารผิดปกติ นอกจากนี้การจัดฟันในเด็กยังสามารถครอบคลุมไปถึงปัญหาพฤติกรรมของเด็ก คือ

    เด็กที่ดูดนิ้ว
    กัดเล็บ
    กัดสิ่งของเป็นประจำ
    นอนหายใจทางปาก

ซึ่งการจัดฟันก็สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วย หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำหรือพาบุตรหลานของท่านเข้ามาตรวจประเมินช่องปากก่อนได้ จากทางคลินิกทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดฟันในเด็ก ยินดีให้คำปรึกษา เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อปลูกฝังให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดและใส่ใจสุขภาพช่องปากและฟันด้วย

5
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


6
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


7
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ต้องขูดหินปูนก่อนเข้ารับการรักษาหรือไม่
 
สุขภาพช่องปากและฟันก่อนเข้ารับการจัดฟัน ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีความพร้อมในการที่จะเข้ารับการรักษาเพื่อที่จะได้มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ หลายคนที่เคยมีปัญหาเรื่องของฟันผุ แน่นอนว่า การเกิดจากการที่เราไม่ดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันของเราไม่ดีเท่าที่ควร จนทำให้เกิดคราบสะสม จนเกิดหินปูน
ซึ่งคราบหินปูนนั้น เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดฟันผุและนำไปสู่การสูญเสียฟัน

ซึ่งหินปูน เกิดจากการพัฒนามาจากคราบแบคทีเรีย คราบพลาค มีลักษณะคล้ายฟิล์มใสๆ บางๆ เกาะตัวอยู่บริเวณโคนฟันใกล้ขอบเหงือก อาจมีสีออกเหลือง หรือเทาได้เล็กน้อย โดยคราบเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้หลังการแปรงฟันเพียง 2-3 นาที เป็นเมือกใสๆ ของน้ำลายมาเกาะที่ตัวฟัน หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ แคลเซียมในอาหารก็จะเข้ามาเกาะรวมอยู่ด้วย จนทำให้เกิดเป็นคราบแข็งที่ติดแน่นมาก จนกลายเป็นหินปูนที่เราไม่สามารถแปรงฟันออกได้ด้วยตนเองในที่สุด ต้องให้ทันตแพทย์เป็นผู้ขูดหินปูนออกให้เท่านั้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับหินปูนและมีปัญหาฟันร่วมด้วยและอยากที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส คงมีคำถามว่า จะต้องขูดหินปูนก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสหรือไม่
 
ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการขูดหินปูนและการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการจัดฟันแบบใส ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเรื่องของขั้นตอนการจัดฟันแบบใสก่อนว่า มีขั้นตอนอย่างไร ซึ่งจะเป็นการตอบคำถามได้ดีว่า ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องขูดหินปูนก่อนเข้ารับการรักษาหรือไม่ ขั้นตอนแรกก่อนที่เราจะเตรียมตัวเข้ารับการจัดฟันแบบใส เราจะต้องทำการปรึกษาปัญหาที่ต้องการจัดฟัน

โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะสามารถเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสได้หรือไม่ รวมไปถึงขั้นตอนการตรวจประเมินช่องปากก่อนเข้ารับการรักษาด้วย แต่ประเด็นที่บอกว่า จะต้องเข้ารับการขูดหินปูนก่อนการรักษานั้น แน่นอนว่าถ้าหากทันตแพทย์ตรวจพบคราบหินปูนขณะประเมินช่องปาก ผู้เข้ารับการจัดฟันก็ต้องเข้ารับการขูดหินปูน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง แต่หากเข้ารับการจัดฟันไปแล้ว แล้วมีคราบหินปูน ทันตแพทย์ก็สามารถขูดหินปูนให้ได้ โดยไม่มีปัญหาในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน

เพราะเนื่องจากเครื่องมือการจัดฟันแบบใสที่สามารถถอดออกได้ง่าย สะดวก จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟันอยู่แล้ว จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่า ในเรื่องของการขูดหินปูนในระหว่างการจัดฟันแบบใส จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ในเรื่องของการทำความสะอาดของฟันสำหรับทันตแพทย์นั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจช่องปากและฟันประจำปีอยู่แล้ว ควรเข้าพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีในระยะยาว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับช่องปากและฟันของเราได้ ให้สามารถพร้อมเข้ารับการจัดฟันได้ทันที ดังนั้น การขูดหินปูน จึงอยู่ในขั้นตอนการวางแผนการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสอยู่แล้ว เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุได้อย่างดีเลยทีเดียว ทั้งนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันด้วยการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เพื่อให้ผู้เข้ารับการจัดฟันได้รับการบริการที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ทางคลินิกเรายังได้รับรองสูงสุดจาก invisalign ให้สามารถให้บริการการจัดฟันแบบใสได้อย่างตามมาตรฐานสากล จึงมั่นใจได้ว่า คุณจะมีฟันที่สวยงาม ช่วยส่งเสริมให้มีบุคลิกภาพที่มั่นใจ มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

8
บริกการรถรับจ้างราชบุรี ความหลากหลายให้เลือกใช้บริการ

การขนส่งสินค้าและบริการรถรับจ้างเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจและการพัฒนาทางสังคมในทุกพื้นที่ ในช่วงสมัยที่เทคโนโลยีและความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องการ บริการรถรับจ้างขนของราชบุรี ก็มีความหลากหลายที่ให้ผู้ใช้บริการได้เลือกใช้ตามความต้องการและสะดวกสบายของตนเองรถ 6 ล้อรับจ้าง

ราชบุรีเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางการคมนาคมอย่างมากในภาคกลางของประเทศไทย ด้วยการเชื่อมโยงทางการขนส่งทางบกที่สำคัญและการเผยแพร่ข้อมูลที่ทันสมัย บริการรถรับจ้างขนของราชบุรี ได้เสนอความหลากหลายในทางเลือกและการบริการที่ทันสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในสมัยปัจจุบัน

ในบทความนี้เราจะสำรวจและสรุปภาพรวมเกี่ยวกับบริกการรถรับจ้างขนของราชบุรี ซึ่งรวมถึงความหลากหลายของบริการ การพัฒนาคุณภาพ และนวัตกรรมที่นำเข้ามาใช้ในการบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการทุกคน ด้วยความหวังว่าข้อมูลที่ได้รับจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านในการเลือกใช้บริการรถรับจ้างขนของราชบุรีอย่างมีสุขภาพใจและมั่นใจได้อย่างแท้จริง ต่อไปเราจะสำรวจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วยความลึกซึ้งและครบถ้วนในส่วนต่อไปของบทความนี้ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกของบริกการรถรับจ้างขนของราชบุรี ที่มีการพัฒนาและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในสมัยปัจจุบันและอนาคต

ความหลากหลายของรถที่ให้บริการ

การบริการรถรับจ้างขนของราชบุรีมีความหลากหลายทั้งในเชิงประเภทของรถที่ให้บริการและความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ภายในวงการนี้ รถกระบะ รถหกล้อ และรถสิบล้อ เป็นตัวอย่างของความหลากหลายที่สร้างความยืดหยุ่นในการให้บริการ โดยมุ่งเน้นการตอบสนองต่อความต้องการและความหลากหลายของลูกค้าที่มีความต่างกัน

1. รถกระบะ

รถกระบะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณสินค้าหรือพัสดุน้อยๆ และต้องการความรวดเร็วในการขนย้ายสิ่งของ รถกระบะมักจะมีขนาดเล็กทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่จำกัดได้ง่าย นอกจากนี้ ค่าบริการของรถกระบะยังมีแนวโน้มที่จะเป็นราคาที่เข้าถึงได้สำหรับลูกค้าทั่วไป

2. รถหกล้อ

รถหกล้อเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการขนย้ายสินค้าหนักหรือมีปริมาณมาก เช่น การขนสินค้าในการก่อสร้างหรือขนบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ รถหกล้อมักมีความจุขนส่งที่มากขึ้นและสามารถรองรับน้ำหนักที่มากกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจหรือโครงการที่มีขนาดใหญ่

3. รถสิบล้อ

รถสิบล้อเป็นตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่นสูงในการขนสินค้าที่มีปริมาณมากและมีความหนักสูง มักจะให้บริการในระยะทางที่ยาวไกล รถสิบล้อมีความสามารถในการบรรจุสินค้าได้มากมาย และมีการติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบตรวจสอบการเดินทางและการติดตามตำแหน่ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะการขนส่งได้ในเวลาจริง

ด้วยความหลากหลายนี้ บริการรถรับจ้างขนของราชบุรี สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ การเลือกใช้บริการจาก รถกระบะ รถหกล้อ หรือรถสิบล้อ จะช่วยให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรับจ้างขนของ


ความหลากหลายของการบริการ

การบริการขนส่งและการรับจ้างรถมีความหลากหลายอย่างที่สอดคล้องกับความต้องการและสิ่งที่ต้องการขนย้ายของลูกค้าที่แตกต่างกันไป ต่อไปนี้คืออธิบายเกี่ยวกับความหลากหลายของการบริการที่มีอยู่

    ขนย้ายบ้าน หอ คอนโด : บริการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายที่อยู่ของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ห้องในหอพัก หรือคอนโดมิเนียม การบริการนี้รวมถึงการให้บริการทั้งกระบวนการขนย้ายและการจัดการทรัพย์สินต่างๆ ให้กับลูกค้าให้สะดวกสบายและไม่มีความเครียดในขณะย้ายถิ่นที่อยู่ของพวกเขา
    ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ : บริการนี้มุ่งเน้นการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น เตียง โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้ลูกค้าสามารถย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปยังที่อยู่ใหม่โดยไม่มีปัญหาในการขนส่ง
    ขนย้ายเครื่องจักร : บริการนี้เหมาะสำหรับการขนย้ายเครื่องจักรหนักหรือของมหาศาลที่ต้องการความระมัดระวังในการขนส่งและการจัดการ มักจะต้องใช้รถพ่วงหรือรถหนักในการขนย้าย
    ขนย้ายต้นไม้ : บริการนี้เหมาะสำหรับการขนย้ายต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น ต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่หรือต้นไม้ที่ต้องการการรักษาพิเศษในระหว่างการขนย้าย
    ขนย้ายรถมอไซค์ : บริการนี้มุ่งเน้นการขนย้ายรถจักรยานยนต์หรือรถมอไซค์ไปยังสถานที่ปลายทางโดยปลอดภัยและถูกกฎหมาย
    บริการขนส่งสินค้า : บริการนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าไปยังสถานที่ปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไปหรือสินค้าที่ต้องการการจัดการและการบริการพิเศษ เช่น สินค้าที่ต้องการความระมัดระวังในการขนส่ง
    บริการรถรับจ้างทั่วไป : บริการนี้เป็นการให้บริการรถรับจ้างทั่วไปสำหรับการขนย้ายของบรรจุหรือส่งผู้โดยสารไปยังสถานที่ปลายทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางท้องถิ่นหรือการเดินทางระยะไกล โดยมีความสำคัญในการให้บริการด้วยความปลอดภัยและราคาที่เหมาะสมกับลูกค้า

เราขอเสนอ บริการรถรับจ้างขนของราชบุรี ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกรูปแบบของความต้องการในการขนส่งและการย้ายของท่าน ทั้งการย้ายบ้าน หรืออาคารพักอาศัย การขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องจักร และแม้กระทั่งการขนย้ายต้นไม้หรือรถมอไซค์ของท่าน เรามีความสามารถและประสบการณ์ในการให้บริการที่ดีเยี่ยมที่จะพาท่านไปถึงจุดหมายที่ต้องการอย่างปลอดภัยและมั่นใจ ด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและใส่ใจในทุกขั้นตอนของการบริการ ทางเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ประทับใจและเหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้าทุกท่านเสมอรถรับจ้างขนย้ายต้นไม้

เราใส่ใจในคุณภาพของบริการ และการปฏิบัติงานอย่างมีระเบียบและปลอดภัย ทำให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้บริการของเราทุกครั้ง นอกจากนี้เรายังมีความยืดหยุ่นในการจัดการเวลาและการเดินทาง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจใช้บริการของเราได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระยะทาง หรือการจัดการค่าบริการที่เป็นกันเองและเป็นธรรม

ทางเรายินดีต้อนรับทุกท่านที่มองหา บริการรถรับจ้างขนของราชบุรี เพื่อความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการขนส่งของของคุณ ขอบคุณที่ให้ความสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกใช้บริการของเรา

9
รถรับจ้างขนของ รถ6ล้อขนของพังงา อยากทราบราคา ต้องทำไงบ้าง

ทางเรารู้ถึงปัญหาหน้างานในระหว่างการเดินทาง ว่าจะต้องปรับตัว หรือประกลยุทธของตัวเองอย่างไร  เรามีการศึกษาเส้นทางและติดตามข่าวสาร ทันทุกเหตการณ์ อาทิเช่น รถรับจ้างต้องส่งของ ไปยังสถานที่ ที่มีน้ำท่วม หากผู้ไม่รู้เส้นทาง จะเปิดดูจีพีเอสแล้วขับไปตามเส้นทางนี้  แต่จะไม่รู้ว่าเส้นไหนที่ถนนถูกตักและขาดไม่สามารถ จะขับขนย้ายได้ จึงต้องขับวนย้อนกับไปอีก จะเสียเวลา ถ้าใช้บริการรถรับจ้างขนของ ด้วย6ล้อส่งของพังงาต้องเราเลยนะค่ะ เราทราบว่าเส้นไหน ถนนไม่สามารถไปได้ เรายอมที่จะวิ่งอ้อมไปส่งลูกค้าเพื่อไปเส้นรอง อาจไกลกว่า ไม่กี่กิโล แต่ถึงชัวร์นั่นเอง ค่ะ อีกทั้งเราไม่ได้เสียเวลาไปกับการวิ่งที่อ้อมหรืออย่างไร แต่เราวิ่งเพื่อเลี่ยงผละกระทบ ที่เกิดขึ้นนั่นเองค่ะ เวลาที่จ้างรถขนของรับจ้าง ด้วยทีมรถ6ล้อรับจ้างขนของ รถขนของรับจ้างพังงารถส่งของ รถย้ายบ้าน รถเช่าเหมาคัน จ้างเป็นรายวันราคาต่อเที่ยว ยินดีให้บริการ เจ้านี้เลยนะค่ะ ขนส่ง พังงา

จุดบริการที่เรานั้นเตรียมไว้ให้มีดังนี้

อำเภอเมืองพังงา

อำเภอ เกาะยาว

อำเภอกะปง

อำเภอคุระบุรี

อำเภอตะกั่วทุ่ง

อำเภอทับปุด

อำเภอท้ายเหมือง

การให้บริการรถหกล้อรับจ้างขนย้ายจังหวัดพังงาลูกค้าต่างทราบดีว่าเราทีมงานทุกคนทำงานกันอบ่างเต็มที่และไม่ทอดทิ้งลูกค้า ทางเรารับปรึกษา งานขนย้ายทุกชนิด ๘ฯ๘ฮ.  ช่วยคำนวณ ให้กับลูกค้า อีกด้วย แม้ว่า สิ่งที่ให้บริการ จะเป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่าย นับว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย ในการขนย้ายในแต่ละครั้ง เราต้อง ขับขี่อย่างปลอดภัย ดูแลสินค้าตลอดการขนย้าย เพราะเนื่องจากของที่ทำการขนย้ายจะมีปริมาณที่มาก บนท้องถนน รถก็ มากมาย เส้นทางบนท้องถนนก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทางเราก็พยายามขับด้วยความปลอดภัย แม้ว่ารถ6ล้อรับจ้างขนของพังงาจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม และการขับขี่จะช้าอยู่แล้วลูกค้าไม่ต้องกังวล เพราะ ก่อนที่จะตกลงราคาการขนย้ายแล้ว ทางเราจะช่วยคำนวณชั่วโมงให้ด้วยว่ารถจะถึงลูกค้า เวลาเท่าไหร่

บริการทีมคนยกของ โดยเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญด้านคนยกของทีมพังงามือทอง มือโปร บริการที่มาพร้อมคนยกแบบทีมหรือต้องการคนยกเพียง2ท่าน ขอให้ลูกค้าทุกท่านแจ้งมาได้เลยค่ะเราจะจัดตามความหมาะสมให้กับลูกค้า ในเรื่องของคนยกของ จากการใช้บริการรถหกล้อรับจ้างขนของ รถ6ล้อขนส่ง รถ6ล้อส่งของพังงา

พังงาแหล่งการขนส่งของผู้ประกอบการ มีผู้ใช้บริการกันทุกวันในโซนของจังหวัดนี้ ดังนั้นหากทีมงานของเรา บริการไม่ดี ก็จะไม่มีคนใช้บริการ แต่ที่เราอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเรามีบริการที่ดีพร้อมแพ็คเกตสุดคุ้ม ให้กับลูกค้า

รถ6ล้อรับจ้างพังงารถใหญ่ ติดเวลา ที่ไหนบ้าง เห็นเขาว่ารถ6ล้อจะไม่สามารถวิ่งได้ เลยอยากทราบ บริการรถรับจ้างขนของทั่วไป ด้วยหกล้อรับจ้าง รถ6ล้อ รถที่ติดเวลา จะอยู่ในพื้นที่ของ กทม.เป็นหลัก ถ้านอกพื้นที่ จะไม่มีเวลาติด ติดก็เพียงเฉพาะ รถค่ะ ลูกค้ามีความสงสัยเรื่องอะไร สามารถสอบถามกับเราได้ ทางเรายินดีจะให้บริการรถรับจ้างขนของ

เมื่อลูกค้าต้องการใช้รถแบบเร่งด่วน สามารถแจ้งเราได้ทันทีทางเราจะจัดเตรียมรถเข้ารับของหน้างานให้ลูกค้า เพียงแค่ ลูกค้าจ่ายค่ามัดจำ แล้วส่งหลักฐานแนบมาทางเราจะส่งรายละเอียดรถ เบอร์โทรคนขับ รูปรถ พร้อมบัตรประชาชนคนขับทีนทีหลังจากชำระเงิน ค่ะ

รถ6ล้อขนของพังงาบริการ ระดับมือโปร รถขนของส่วนใหญ่ที่รับขนของย้ายบ้าน ย้ายไซส์งานก่อสร้าง ย้ายเหล็ก ย้ายของน้ำหนักเยอะ รถที่ตอบโจทย์ลูกค้า นั่นพลาดราชินีแห่งการขนย้าย ต้องเป็นรถหกล้อรับจ้างขนของ 6ล้อขนของ ส่งของ ราคามิตรภาพ กระแสของการขนย้ายที่มีกันตลอดสายไม่เคยมีวันหยุด ไม่ว่าจะช่วง วิกฤต น้ำท่วม วิฤตโควิด วิกฤตต่างๆที่ได้รับผลกระทบ ทางเราก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะการผ่านช่วงผลกระทบนี้

10
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ถุงน้ำดีอักเสบ

ถุงน้ำดีอักเสบ หมายถึง ภาวะที่ถุงน้ำดีมีการอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาวะแทรกซ้อนของนิ่วน้ำดี (นิ่วในถุงน้ำดี) ดังนั้น จึงพบได้บ่อยในผู้ที่เป็นนิ่วน้ำดี และพบได้บ่อยที่สุดในช่วงอายุ 50-69 ปี

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการไข้และปวดท้องเกิดขึ้นฉับพลันทันที เรียกว่า "ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (acute cholecystitis)" ซึ่งมักมีอาการปวดท้องรุนแรง นับว่าเป็นโรคที่รุนแรงที่ต้องเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลอย่างรีบด่วน เนื่องเพราะหากปล่อยไว้หรือได้รับการรักษาที่ล่าช้า อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ส่วนน้อยอาจมีอาการไม่รุนแรงหรือไม่ชัดเจน และมักไม่ได้ถูกวินิจฉัยที่ถูกต้องตั้งแต่แรก อาการมักเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง เรียกว่า "ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง (chronic cholecystitis)" ซึ่งการอักเสบที่เกิดขึ้นซ้ำซาก จะทำให้ผนังถุงน้ำดีหนาตัว ไม่สามารถขยายตัวและบีบตัวได้เป็นปกติ และหากปล่อยไว้ อาจกลายเป็นถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้

ถุงน้ำดีอักเสบพบมากในกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วน้ำดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน) ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงสูง

สาเหตุ

ถุงน้ำดีอักเสบ ส่วนใหญ่มักเป็นภาวะแทรกซ้อนของนิ่วน้ำดี (นิ่วในถุงน้ำดี) หรือตะกอนในถุงน้ำดี (gall bladder sludge)  เนื่องจากนิ่วหรือตะกอนหลุดออกจากถุงน้ำดีลงมาอุดตันบริเวณปากถุงน้ำดี (cystic duct) ทำให้ถุงน้ำดีมีแรงดันเพิ่มขึ้นและมีการขยายตัว ทำให้เยื่อบุผนังของถุงน้ำดีขาดเลือด เป็นผลให้เกิดการอักเสบ และบางรายอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย (เช่น อีโคไล เคล็บซิลลา สเตรปโตค็อกคัส  สแตฟีโลค็อกคัส เป็นต้น) ร่วมด้วย

มีเพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้เกิดจากนิ่วหรือตะกอนในถุงน้ำดี แต่เกิดเป็นผลแทรกซ้อนจากโรคหรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ อาทิ  โรคติดเชื้อ (เช่น เอดส์ ตับอักเสบจากไวรัส ไทฟอยด์ เป็นต้น), ภาวะอุดกั้นของท่อน้ำดี (จากเนื้องอกในช่องท้อง หรือจากการตีบตันของท่อน้ำดีที่เกิดความผิดปกติ), การผ่าตัดในช่องท้อง, การบาดเจ็บรุนแรง หรือบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก, ภาวะขาดอาหารรุนแรง, การเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่กระทบต่อถุงน้ำดี หรือเกิดการทำลายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงถุงน้ำดีทำให้ถุงน้ำดีขาดเลือด เป็นต้น มักพบในผู้ป่วยที่สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีการเจ็บป่วยหนัก นอนรักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก มีภาวะช็อก หัวใจล้มเหลว หรือโลหิตเป็นพิษ หรือแพทย์ให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ (parenteral nutrition) เป็นเวลานาน สันนิษฐานว่าปัจจัยเหล่านี้ทำให้ถุงน้ำดีบีบตัวได้น้อย และน้ำดีซึ่งมีความเข้มข้น (เนื่องจากมีไข้สูงจากโรคที่เป็นสาเหตุ และภาวะขาดน้ำ) คั่งค้างอยู่ในถุงน้ำดีนาน ทำให้ถุงน้ำดีมีแรงดันเพิ่มขึ้น และเยื่อบุผนังของถุงน้ำดีขาดเลือด เป็นผลให้ถุงน้ำดีอักเสบ*

*ถุงน้ำดีอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากนิ่วหรือตะกอนในถุงน้ำดี (acalculous cholecystitis) พบได้ราวร้อยละ 5-10 ของผู้ที่เป็นถุงน้ำดีอักเสบทั้งหมด ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง ส่วนมากจะเกิดอาการถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (มีไข้สูงและปวดท้องรุนแรง) แต่มีความรุนแรง (คือมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ได้แก่ ถุงน้ำดีมีเนื้อตายเน่า และถุงน้ำดีแตกทะลุ) และมีอัตราตายมากกว่าถุงน้ำดีอักเสบที่เกิดจากนิ่วหรือตะกอนในถุงน้ำดี (calculous cholecystitis) แพทย์จะทำการรักษาแบบเดียวกับถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน

อาการ

ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยมีการอักเสบเกิดขึ้นฉับพลันทันที ด้วยอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดท้องรุนแรง ตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา เวลาหายใจลึก ๆ จะปวดเจ็บมากขึ้น  และมักมีอาการกดเจ็บ (ใช้มือกดตรงบริเวณที่ปวดจะรู้สึกเจ็บมาก) อาจมีอาการปวดร้าวไปที่ไหล่ขวา ใต้สะบักขวาหรือ ตรงกลางหลัง นอกจากนี้ อาจมีอาการท้องอืด เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

อาการมักเกิดหลังกินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารมัน ๆ และจะมีอาการปวดท้องตลอดเวลาต่อเนื่องไปจนกว่าจะได้รับการรักษา

บางรายอาจมีอาการดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเหลืองเข้มเหมือนขมิ้น) และอุจจาระสีซีดขาว เนื่องจากน้ำดีถูกอุดกั้น ระบายสู่ลำไส้ไม่ได้ และย้อนเข้ากระแสเลือด

ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ซึ่งอาการจะกำเริบเมื่อนิ่วหรือตะกอนในถุงน้ำดีเคลื่อนตัวไปอุดตันปากถุงน้ำดี ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องแบบเล็กน้อยตรงใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา บางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่ไหล่ขวา ใต้สะบักขวา หรือตรงกลางหลัง และอาจมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ คลื่นไส้ อาเจียน อาการมักเป็นในเวลาตอนเย็นหรือกลางคืน หรือหลังจากกินอาหารมัน ๆ อาการปวดท้องที่เป็นเพียงเล็กน้อยตรงชายโครงขวาและใต้ลิ้นปี่ มักทำให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะหรืออาหารไม่ย่อย

อาการปวดท้องแต่ละครั้งจะเป็นอยู่นานเป็นสัปดาห์ ๆ หรือเป็นเดือน ๆ แล้วก็จะหายไปได้เองอยู่ระยะหนึ่ง (เนื่องจากนิ่วหรือตะกอนในถุงน้ำดีเคลื่อนตัวหลุดออกจากปากถุงน้ำดี ทำให้การอุดตันนั้นคลายไป) ต่อมาอีกสักระยะหนึ่ง เมื่อเกิดการอุดตันกลับมาอีก อาการก็จะกลับมากำเริบใหม่ เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ป่วยอาจมีอาการแรงขึ้นหรือบ่อยขึ้น

บางรายในเวลาต่อมาอาจมีอาการของถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (มีไข้ ปวดท้องรุนแรง) หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เกิดขึ้นได้

ภาวะแทรกซ้อน

ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่

    ภาวะมีหนองในถุงน้ำดี (empyema of gallbladder) ซึ่งเกิดจากน้ำดีในถุงน้ำดีเกิดการติดเชื้อ กลายเป็นหนองขังอยู่ในถุงน้ำดี อาจทำให้เกิดภาวะช็อกจากโรคติดเชื้อ (septic shock) เป็นอันตรายได้
    ถุงน้ำดีเป็นเนื้อตายเน่า (gangrene of gallbladder) ซึ่งเกิดจากผนังถุงน้ำดีที่อักเสบเกิดการบวมและขยายตัว ทำให้ขาดเลือดและเนื้อเยื่อตาย ถุงน้ำดีเกิดการแตกทะลุ เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบและหนองในช่องท้อง เชื้อเข้ากระแสเลือด กลายเป็นโลหิตเป็นพิษ เป็นอันตรายได้
    ถุงน้ำดีที่มีภาวะพองลม (emphysematous cholecystitis) เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงถุงน้ำดีแข็งและตีบตัว ทำให้ถุงน้ำดีขาดเลือด เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่สร้างก๊าซ (gas forming organism เช่น กลุ่มเชื้อคลอสตริเดียม อีโคไล เป็นต้น) ทำให้เกิดการสะสมของก๊าซ (การพองลม) ในผนังถุงน้ำดีและภายในของถุงน้ำดี เป็นภาวะที่พบได้น้อย พบบ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ผู้ที่เป็นเบาหวานมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคนี้ ซึ่งมีอัตราตายสูง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเนื้อตายเน่าและการแตกทะลุของถุงน้ำดี
    ภาวะแทรกซ้อนอื่นที่อาจพบได้ เช่น ภาวะโลหิตเป็นพิษ (เชื้อเข้ากระแสโลหิต) ตับอ่อนอักเสบ ท่อน้ำดีอักเสบ ตับอักเสบ

ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง อาจพบภาวะแทรกซ้อน ได้แก่

    มีอาการของถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อนตามมาในภายหลัง และอาจมีผลทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงดังกล่าวข้างต้น
    ลำไส้อุดกั้น (small bowel obstruction) เนื่องจากเกิดทางทะลุ (fistula) ระหว่างถุงน้ำดีกับลำไส้เล็ก นิ่วในถุงน้ำดีหลุดเข้าไปอุดกั้นในลำไส้เล็ก ทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องอืดแน่นรุนแรง เรียกว่า "ภาวะลำไส้อุดกั้นจากนิ่วน้ำดี (gallstone ileus)"
    ท่อน้ำดีเกิดการอุดกั้น จากการกดเบียดของพังผืดที่เกิดขึ้นเนื่องจากการอักเสบเรื้อรังของถุงน้ำดี ทำให้เกิดภาวะดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเหลืองเข้มเหมือนขมิ้น และอุจจาระสีซีดขาว) และอาจเกิดการติดเชื้อ ทำให้ท่อน้ำดีอักเสบแทรกซ้อนได้
    การอักเสบเรื้อรังของถุงน้ำดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของถุงน้ำดีมากกว่าปกติ

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากการซักถามอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

การตรวจร่างกาย ในผู้ป่วยถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันมักพบว่ามีไข้ กดเจ็บมากตรงใต้ชายโครงขวาหรือใต้ลิ้นปี่ บางรายอาจตรวจพบอาการตาเหลืองตัวเหลือง

ส่วนในผู้ป่วยถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง จะไม่พบว่ามีไข้ หรืออาการตาเหลืองตัวเหลือง และอาจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจนอื่น ๆ ยกเว้นบางรายอาจตรวจพบอาการกดเจ็บเล็กน้อยบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจอัลตราซาวนด์ช่องท้อง (abdominal ultrasound) และการตรวจเลือด (ในถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน จะพบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ และการทำงานของตับผิดปกติ) เป็นหลัก ในรายที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อเข้ากระแสโลหิต (โลหิตเป็นพิษ) แพทย์จะทำการเพาะเชื้อจากเลือด (blood culture) และทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ

นอกจากนี้ อาจทำการตรวจด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น การตรวจระบบทางเดินอาหารโดยการส่องกล้องที่ติดอัลตราซาวนด์ (endoscopic ultrasound) การถ่ายภาพรังสีตรวจถุงน้ำดีโดยการกินสารทึบรังสี (oral cholecystography) เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การตรวจสแกนตับและทางเดินน้ำดี (hepatobiliary scan) การส่องกล้องตรวจทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (endoscopic retrograde cholangiopancreatography/ERCP) เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้การดูแลรักษาดังนี้

1. ให้การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ โดยให้ผู้ป่วยงดน้ำและอาหารเพื่อให้ถุงน้ำดีได้พัก และให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ ให้ยาบรรเทา (เช่น แก้ปวด แก้ไข้ แก้คลื่นไส้อาเจียน)

2. ให้ยาปฏิชีวนะ รักษาการติดเชื้อ ซึ่งมักจะให้ยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำเป็นหลัก

3. ทำการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก เพื่อป้องกันไม่ให้ถุงน้ำดีอักเสบกำเริบซ้ำ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ซึ่งจะพิจารณาทำการผ่าตัดในเวลาที่เหมาะสม ยกเว้นในรายที่มีภาวะที่รุนแรง (เช่น ภาวะมีหนองในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีมีเนื้อตายเน่า ภาวะโลหิตเป็นพิษ) หรือการรักษาด้วยยาไม่ได้ผลเท่าที่ควร แพทย์ก็จะทำการผ่าตัดแบบรีบด่วน

การผ่าตัด แพทย์จะเลือกวิธีผ่าตัดถุงน้ำดีแบบส่องกล้อง (laparoscopic cholecystectomy) หรือผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเปิดหน้าท้อง (open cholecystectomy) โดยพิจารณาตามสภาพปัญหาของผู้ป่วยแต่ละราย

ในรายที่มีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดถุงน้ำดี แพทย์จะใช้วิธีผ่าระบายถุงน้ำดี (cholecystostomy) โดยทำการเปิดถุงนํ้าดีผ่านทางหน้าท้อง เพื่อระบายเอาหนองหรือน้ำดีออกทางท่อต่อสายยางที่เย็บติดกับทางเปิดนั้น

ผลการรักษา ส่วนใหญ่ได้ผลดี ร่างกายฟื้นตัวหายได้เป็นปกติ

ส่วนน้อยอาจมีความยุ่งยากในการรักษา หรือเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต ซึ่งมักจะพบในผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง (เช่น ภาวะมีหนองในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีมีเนื้อตายเน่า เชื้อเข้ากระแสโลหิตหรือโลหิตเป็นพิษ), มีภาวะดื้อต่อยาที่รักษา, หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง ตับแข็ง เป็นต้น)

ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง แพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบไม่รีบด่วน คือนัดหมายให้ทำในเวลาที่สะดวกและมีการเตรียมความพร้อม ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบส่องกล้อง การผ่าตัดถุงน้ำดีนอกจากจะได้ผลดีและปลอดภัยแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้ได้รับอันตรายจากการเกิดถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน และภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้อีกด้วย

สำหรับผู้ป่วยถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรังบางคนที่ยังไม่สะดวกหรือไม่พร้อมที่จะรับการผ่าตัด หากร่างกายยังแข็งแรงดี หรือมีอาการยังไม่มาก แพทย์จะทำการติดตามดูอาการเป็นระยะ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันสูงเพื่อไม่ให้อาการกำเริบบ่อย

การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นถุงน้ำดีอักเสบ เช่น มีไข้และปวดท้องรุนแรงตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา หรือมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ซึ่งกินยารักษาโรคกระเพาะไม่ได้ผล หรือเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นถุงน้ำดีอักเสบ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด
    ผู้ป่วยที่เป็นถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรังที่ยังไม่ได้ผ่าตัด ซึ่งแพทย์นัดติดตามดูอาการเป็นระยะนั้น ควรปฏิบัติ ดังนี้

- ทำงาน และออกกำลังกายได้เป็นปกติ แต่ไม่ให้หักโหมมากเกินไป
- กินอาหารให้ตรงเวลา ไม่ควรอดอาหาร
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันชนิดอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไขมันสัตว์ เครื่องในสัตว์ หนังสัตว์ น้ำมันหมู มันหมู  หมูสามชั้น หมูกรอบ ขาหมู ข้าวมันไก่ เนื้อวัวติดมัน หมูยอ กุนเชียง ไส้กรอก เนย ครีม กะทิ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ไข่แดง อาหารทะเล (เช่น หอยแครง หอยนางรม ปลาหมึก) อาหารทอด (เช่น แคบหมู หมูทอด ไก่ทอด กล้วยแขก ปาท่องโก๋ มันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบทอด) เป็นต้น
- กินผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชให้มาก ๆ
- งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา
- ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง หรือปวดท้องบ่อย มีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง) เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด (โดยไม่ตั้งใจ) หรือมีความวิตกกังวล

    ผู้ป่วยที่กลับจากโรงพยาบาลหลังผ่าตัด

- ควรพักฟื้น และหลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือยกของหนักจนกว่าจะฟื้นตัวเป็นปกติ หรือตามที่แพทย์แนะนำ
- ดูแลรักษาแผลผ่าตัดตามที่แพทย์แนะนำ
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารโปรตีนให้มาก เช่น นมพร่องมันเนย ไข่ขาว เนื้อปลา เต้าหู้ ถั่วเหลือง เป็นต้น
- กินอาหารที่ย่อยง่าย วันละ 5-6 มื้อ แต่ละมื้อลดปริมาณลงเหลือครึ่งหนึ่งของปกติ (จากที่เคยกินวันละ 3 มื้อ)
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง และอาหารที่ทำให้ท้องอืดแน่น หรือท้องเดิน
- กินผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชให้มาก ๆ
- ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้าแผลอักเสบ, หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง มีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินมาก ดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง) เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด (โดยไม่ตั้งใจ), หรือถ้ากินยาที่แพทย์สั่งให้แล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ)

การป้องกัน

1. หาทางป้องกันไม่ให้เป็นนิ่วน้ำดี โดยปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้

    รักษาน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินหรือเป็นโรคอ้วน
    ถ้าต้องการลดน้ำหนักตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแนะนำวิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ไม่ลดเร็วเกินไป เนื่องเพราะการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วน้ำดี
    กินอาหารให้ตรงเวลา ไม่ข้ามมื้ออาหาร หรืออดอาหาร
    ลดอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง
    กินอาหารที่มีกากใยมาก เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช
    ออกกำลังกายเป็นประจำ

2. ผู้ที่แพทย์ตรวจพบว่าเป็นนิ่วน้ำดี ควรรักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำดีตามที่แพทย์แนะนำ

ข้อแนะนำ

1. ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (มีอาการไข้และปวดท้องรุนแรงตลอดเวลา) ซึ่งพบได้บ่อยกว่าถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง (มีอาการปวดท้องที่ไม่ค่อยชัดเจนและไม่รุนแรง เป็น ๆ หาย ๆ บ่อย) นับว่าเป็นภาวะที่ค่อนข้างร้ายแรง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็ว หากมีอาการสงสัย ควรไปพบแพทย์ภายใน 6 ชั่วโมง การไปพบแพทย์ล่าช้าเกินไป อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ทำให้เกิดความยุ่งยากในการรักษาหรือเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือโรคเรื้อรังอื่น ๆ

2. ผู้ที่มีอาการปวดตรงใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวาแบบไม่รุนแรง หรือมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อบ่อย โดยที่สุขภาพทั่วไปเป็นปกติดี และมักมีอาการหลังกินอาหาร เป็น ๆ หาย ๆ คล้ายอาการของโรคกระเพาะหรืออาหารไม่ย่อย มักจะเข้าใจว่าเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร (เช่น กรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหารอักเสบ) ถ้าลองกินยาที่ใช้รักษาโรคกระเพาะแล้วอาการไม่ทุเลา หรือมีอาการเรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการของถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรังก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีประวัติเป็นนิ่วน้ำดีแบบไม่มีอาการ หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วน้ำดี (เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน คนอ้วน เป็นต้น)

3. เมื่อตรวจพบว่าเป็นถุงน้ำดีอักเสบ แพทย์จะรักษาด้วยการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกไป หลังผ่าตัดใหม่ ๆ ผู้ป่วยบางคนอาจมีปัญหาการย่อยไขมันได้ ทำให้มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเดิน หรือถ่ายเหลวบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกินอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัว ทำให้อาการทุเลาไปได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ ระหว่างที่มีอาการ แนะนำให้ผู้ป่วยงดกินอาหารที่มีไขมันสูงและอาหารที่ทำให้ท้องอืดแน่น หรือท้องเดิน ควรกินผัก ผลไม้ และธัญพืชให้มาก ๆ

11
บริการด้านอาหาร: อาหารบำรุงปอดให้แข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกัน

ในเรื่องของการรับประทานอาหารเป็นเรื่องสำคัญต่อการดำรงชีวิตของคนเรา เพราะเราจะต้องรับประทานอาหารทุกวันเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพื่อไปสร้างเป็นพลังงานให้เราสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารของเรานั้น ก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง และสารอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้น จะมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายในแต่ละส่วนของเรา ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเราด้วย

ยิ่งในปัจจุบัน ยิ่งมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบต่างๆในร่างกายของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ปอด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบทางเดินหายใจ และถ้าหากเกิดติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมา แน่นอนว่าจะทำให้ปอดของเรามีปัญหา ซึ่งอาจจะทำให้เชื้อลงปอดได้ จนส่งผลทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงปอดของเรา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้เรามีสุขภาพปอดที่ดี แข็งแรง ก็มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายของเกิดภูมิคุ้มกัน และถ้าเกิดอันจารยต่อปอดของเราก็อาจจะไม่ทำให้เกิดอาการที่รุนแรงได้นั่นเอง ดังนั้น วันนี้เรา จะมาพูดถึงอาหารที่ช่วยในการบำรุงปอด เพื่อให้ปอดของเรามีความแข็งแรง สุขภาพดี ทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายโดยรวมของเราด้วยสำหรับใครที่อยากจะบำรุงปอด ในผู้ที่ยังไม่มีอาการป่วย

รสชาติที่ดีต่อปอดคือรสเผ็ด
ถ้าหากเรารับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดพอประมาณ ก็จะสามารถบำรุงปอดได้ แต่ในทางกลับกันถ้ารับประทานเผ็ดมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ปอดอ่อนแอได้เช่นกัน ดังนั้น อาหารที่รสเผ็ดก็คือ ขิง ซึ่งเป็นทั้งอาหารและยาที่ดีสำหรับปอด อาหารที่ดีสำหรับปอดคืออาหารที่มีรสอุ่นเผ็ด เช่น ขิง พริก พริกไทยป่น พริกไทยอ่อน ขมิ้นขาว กระชาย ข่า ตะไคร้ ต้นหอม หอมใหญ่ หัวหอมแดง สะระแหน่ เป็นต้น

ผลไม้
แต่เชื่อหลายคนไม่ชอบอาหารที่มีรสเผ็ด ซึ่งก็ยังมีอาหารประเภทอื่นที่ช่วยบำรุงปอดด้วย เช่น ผลไม้อย่าง แอปเปิ้ล ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี อี เบตาแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง นอกจากนั้นยังมีสารต้านเซลล์มะเร็งหลายชนิด รวมไปถึงมะเร็งปอดอีกด้วย และผลไม้รสเปรี้ยว ประเภทเบอร์รี่ เช่น อาซาอิ และบลูเบอร์รี ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง แถมยังรสชาติดีเป็นที่ถูกใจของใครหลายๆ คนด้วย หรือจะทำเป็นเครื่องดื่มก็อร่อยแถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

แซลมอน
ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติช่วยต้านปอดอักเสบ บำรุงปอดให้แข็งแรง เสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องดื่มอย่างชาเขียวร้อนๆ
ที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อดื่มแล้วช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยต้านการอักเสบ แถมยังช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น

แครอท
ผักที่มีสีส้มที่เต็มไปด้วยเบตาแคโรทีนและวิตามิเอที่ช่วยขับพิษออกจากร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านมะเร็ง นอกจากนั้น ยังช่วยป้องกันอาการหอบหืดและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเสริมการทำงานได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงบร็อคโคลี ที่มีวิตามินซี วิตามินบี แคโรทีนอยด์ โฟเลต และไฟโตเคมิคอลที่ช่วยปกป้องปอดของคุณจากมลภาวะทางอากาศต่างๆ ทั้งฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ช่วยบำรุงให้ปอดแข็งแรง

กระเทียม
จากการวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานกระเทียมดิบ มีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งปอดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน ยิ่งไปกว่านั้นผู้สูบบุหรี่ที่กินกระเทียมดิบมีความเสี่ยงมะเร็งปอดลดลง 40% ด้วยฟลาโวนอยด์ที่กระตุ้นการผลิตกลูตาไธโอนซึ่งช่วยเพิ่มการขจัดสารพิษและสารก่อมะเร็งช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ถือว่าเป็นสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณร้อยแปดจริงๆ

ดังนั้น เราจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรค เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี หันมาดูแลตัวเอง โดยเริ่มจากการรับประทานอาหาร ซึ่งทางเราได้เน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง จะได้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่


12
โรคภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease/COPD)

ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง หมายถึงภาวะที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากโรคเรื้อรังของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีอยู่หลายโรค ที่สำคัญได้แก่ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมปอดโป่งพอง ทั้ง 2 โรคนี้มักจะพบร่วมกัน ทำให้มีการลดลงของอัตราการไหลเวียนของลมหายใจผ่านปอดขณะหายใจออก จึงมีอากาศคั่งค้างอยู่ในปอดมากกว่าปกติ ประกอบกับการแลกเปลี่ยนอากาศขึ้นได้น้อยกว่าปกติ (มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลง และระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูงขึ้น) เป็นเหตุให้ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อยง่าย

หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หมายถึง การอักเสบของเยื่อบุผิวภายในหลอดลม ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื้อรัง เป็นผลมาจากการถูกสารพิษในบุหรี่หรือสิ่งระคายเคือง ทำให้ขนอ่อน (cilia) พิการ ไม่สามารถโบกพัดเพื่อขจัดเชื้อโรคและสิ่งระคายเคืองออกไป เมื่อเยื่อบุหลอดลมเกิดการอักเสบเรื้อรัง ก็จะทำให้เซลล์เยื่อบุหลอดลมมีการเพิ่มจำนวนและหนาตัวขึ้น รวมทั้งต่อมเมือก (mucous glands) บวมโตและหลั่งเมือก (เสมหะ) ออกมากกว่าปกติ จนทำให้ช่องทางเดินหายใจแคบลง เกิดภาวะอุดกั้นขึ้น แพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการไอมีเสมหะมากติดต่อกันทุกวันปีละมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี

ถุงลมปอดโป่งพอง (ถุงลมพอง ก็เรียก) หมายถึง ภาวะพิการอย่างถาวรของถุงลมในปอด ปกติถุงลมอยู่ปลายสุดของปอด ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนล้าน ๆ ถุง เป็นถุงอากาศเล็ก ๆ มีหลอดเลือดหุ้มอยู่โดยรอบ เป็นที่ซึ่งเกิดการแลกเปลี่ยนอากาศ กล่าวคือ ก๊าชออกซิเจนในถุงลมซึมผ่านผนังถุงลมและหลอดเลือดเข้าไปในกระแสเลือดและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลือด ซึมกลับออกมาในถุงลม ถุงลมที่ปกติจะมีผนังที่ยืดหยุ่น ทำให้ถุงลมหดและขยายตัวได้คล้ายฟองน้ำ ซึ่งช่วยให้การแลกเปลี่ยนอากาศเป็นไปอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมปอดโป่งพอง จะมีผนังถุงลมที่เสียความยืดหยุ่นและเปราะง่าย ทำให้ถุงลมสูญเสียหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนอากาศ นอกจากนี้ผนังของถุงลมที่เปราะยังมีการแตกทะลุ ทำให้ถุงลมขนาดเล็ก ๆ หลาย ๆ อันรวมตัวเป็นถุงลมที่โป่งพองและพิการ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ จำนวนพื้นผิวของถุงลมที่ยังทำหน้าที่ได้ทั้งหมดลดน้อยลงกว่าปกติ ทำให้ออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง เกิดอาการเหนื่อยหอบง่าย

ทั้ง 2 โรคนี้มักจะเกิดร่วมกัน จนบางครั้งแยกกันไม่ออก พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หลอดลมอักเสบเรื้อรังจะพบมากในช่วงอายุ 30-60 ปี ส่วนถุงลมปอดโป่งพองพบมากในช่วงอายุ 45-65 ปี ส่วนใหญ่จะมีประวัติสูบบุหรี่จัด (มากกว่าวันละ 20 มวน) มานานเป็น 10-20 ปีขึ้นไป หรือไม่ก็มีประวัติอยู่ในที่ที่มีอากาศเสีย สูดควันเป็นประจำ หรือมีอาชีพทำงานในโรงงาน หรือเหมืองแร่ที่หายใจเอาสารระคายเคืองเข้าไปเป็นประจำ

ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง,หลอดลมอักเสบเรื้อรัง

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากสารพิษในบุหรี่ที่สูบเข้าไปทำลายเยื่อบุหลอดลมและถุงลมในปอด ซึ่งค่อย ๆ เกิดขึ้น และลุกลามรุนแรงขึ้นอย่างช้า ๆ และในที่สุดเกิดความพิการอย่างถาวรดังกล่าวข้างต้น (พบว่าประมาณร้อยละ 15-20 ของผู้ที่สูบบุหรี่จัดจะเกิดภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง)

ส่วนน้อยอาจเกิดจากมลพิษในอากาศ (เช่น ฝุ่น สารเคมี) จากการประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง และอาจเสี่ยงมากขึ้น เมื่อมีการสูบบุหรี่ร่วมด้วย   

ในบางพื้นที่ (เช่น เขตเขาทางภาคเหนือ) พบว่าเกิดจากการใช้ฟืนหุงต้มหรือก่อไฟภายในบ้านที่ขาดการถ่ายเทอากาศ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยสูดควันอยู่ประจำจนเป็นพิษต่อทางเดินหายใจ

ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหืด มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังมากกว่าคนปกติ และการสูบบุหรี่ยิ่งทำให้เสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าอาจเกิดจากภาวะพร่องสารต้านทริปซิน (alpha1-antitrypsin ซึ่งเป็นโปรตีนป้องกันไม่ให้ถุงลมปอดถูกสารพิษทำลาย) ภาวะนี้พบได้น้อย สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และมักเกิดอาการในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 40-50 ปี

อาการ

ระยะที่เริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (อาจเริ่มในช่วงอายุ 30-40 ปี) จะมีอาการไอมีเสมหะเรื้อรังทุกวันเป็นแรมเดือนแรมปี ผู้ป่วยมักจะไอหรือขากเสมหะในคอหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเป็นประจำ จนนึกว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้ใส่ใจดูแลรักษา ต่อมาจะไอถี่ขึ้นตลอดทั้งวัน และมีเสมหะจำนวนมาก ในช่วงแรกมีลักษณะเป็นสีขาว ต่อมาอาจเป็นสีเหลืองหรือเขียว มีไข้ขึ้นหรือหอบเหนื่อยเป็นครั้งคราวจากโรคติดเชื้อแทรกซ้อน

ถ้าไม่หยุดสูบบุหรี่ จนมีโรคถุงลมปอดโป่งพองตามมา (อาจใช้เวลามากกว่า 10 ปี จากระยะเริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง) นอกจากอาการไอเรื้อรังแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายเฉพาะเวลาออกแรงมาก หรือเมื่อมีโรคติดเชื้อแทรก (เช่น มีไข้ ไอมีเสมหะเหลืองหรือเขียว) อาการหอบเหนื่อยจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้น แม้แต่เวลาพูดหรือเดินหรือทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย จนในที่สุด (อาจใช้เวลา 5-10 ปีขึ้นไป) แม้แต่อยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกหอบเหนื่อย ทั้งนี้เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถหายใจแลกเปลี่ยนอากาศ (ออกซิเจน) ได้เพียงพอต่อการนำไปเลี้ยงร่างกายให้เกิดพลังงาน

ในระยะหลัง ผู้ป่วยมักมีอาการกำเริบหนักเป็นครั้งคราวเมื่อมีการติดเชื้อแทรกซ้อน ทำให้มีไข้และไอมีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว หายใจหอบ ตัวเขียว จนต้องเขารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

บางครั้งอาจมีภาวะหัวใจวายแทรกซ้อน

เมื่อเป็นถึงขั้นระยะรุนแรง ผู้ป่วยมักมีอาการเบื่ออาหารและน้ำหนักลด รูปร่างผ่ายยอม และมีอาการเหนื่อยหอบอยู่ตลอดเวลา มีอาการทุกข์ทรมาน และรู้สึกท้อแท้

ภาวะแทรกซ้อน

มักมีการติดเชื้อแทรกซ้อนเป็นครั้งคราว เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ซึ่งจะทำให้มีอาการหอบกำเริบรุนแรง ระยะแรก ๆ ประมาณปีละ 1-2 ครั้ง แต่เมื่อโรคถุงลมปอดโป่งพองเป็นรุนแรงมากขึ้น ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ถี่ขึ้นจนผู้ป่วยอาจต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลบ่อย

ระยะรุนแรง ผู้ป่วยมักมีภาวะการหายใจล้มเหลวเรื้อรัง (chronic respiratory failure) ร่วมด้วย และอาจมีภาวะหัวใจวายแทรกซ้อน มีอาการหอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ หลอดเลือดที่คอโป่ง เท้าบวม ตับโต หัวใจห้องขวาล่างโต เรียกว่า โรคหัวใจเหตุจากปอด (cor pulmonale)

ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ปอดทะลุ จากการที่ถุงลมส่วนนอก (ใกล้เยื่อหุ้มปอด) แตก ไอออกเป็นเลือดจากการอักเสบของหลอดลม ภาวะเม็ดเลือดแดงมาก (polycythemia ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดมีลิ่มเลือด หรือ phrombosis) ไส้เลื่อน กำเริบเนื่องจากอาการไอเรื้อรัง เป็นต้น

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ในระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ระยะต่อมาใช้เครื่องฟังตรวจปอดมักได้ยินเสียงอึ๊ด (rhonchi) เสียงกรอบแกรบ (crepitation) เสียงวี้ด (wheezing) และ/หรือเสียงหายใจออกยาว (prolonged expiration) ในรายที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อนมักมีไข้ร่วมด้วย

ในระยะที่เป็นมากขึ้น อาจพบอาการหายใจเร็ว หน้าอกมีอาการเคาะโปร่ง (hyperresonant) และเมื่อใช้เครื่องฟังตรวจปอด จะพบเสียงหายใจค่อย (ฟังไม่ค่อยได้ยิน) เนื่องจากมีอากาศค้างอยู่ในถุงลม และลมหายใจเข้าออกได้น้อย ถ้ามีอากาศค้างอยู่ในถุงลมมาก ก็จะพบหน้าอกมีลักษณะเป็นรูปถังทรงกระบอก เรียกว่า อกถัง หรือ อกโอ่ง (barrel chest)

ในรายที่จำเป็นต้องวินิจฉัยโรคนี้ให้แน่ชัด แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ ทำการวัดปริมาตรอากาศหายใจ (spirometry) เพื่อประเมินสมรรถภาพของปอด* ในรายที่เป็นระยะรุนแรงอาจทำการตรวจเลือดประเมินภาวะเม็ดเลือดแดงมาก (polycythemia) ซึ่งอาจพบในผู้ป่วยบางราย ตรวจระดับออกซิเจนในเลือด (ซึ่งจะต่ำกว่าปกติตั้งแต่ระยะแรก ๆ) และคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด (ซึ่งจะสูงกว่าปกติในระยะต่อมา) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น ในรายที่อายุต่ำกว่า 40 ปีอาจตรวจหาระดับสารต้านทริปซินในเลือด

อกโอ่ง

* ดูค่า FEV1 (forced expiratory volume in one second) ซึ่งหมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกใน 1 วินาที และค่า FVC (forced vital capacity) ซึ่งหมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกจนสุดอย่างเต็มที่หนึ่งครั้ง

แพทย์จะประเมินจากค่า FEV1 และ FEV1/FVC (ค่า FEV1 หารด้วยค่า FVC) ซึ่งทั้ง 2 ค่านี้ถ้ายิ่งมีค่าต่ำ ก็ยิ่งบ่งชี้ว่ายิ่งมีความรุนแรง เช่น ในรายที่มีภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง มักมีค่า FEV1/ FVC < 70% และมีค่า FEV1 ≥ 80% ของค่ามาตรฐาน (ในรายที่เป็นเล็กน้อย) ระหว่าง 30-80% (ในรายที่เป็นปานกลาง) และ < 30% (ในรายที่เป็นรุนแรง)

การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยแล้ว แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ยาบรรเทาตามอาการ เช่น ถ้ามีเสียงวี้ด (wheezing) ให้ยาขยายหลอดลม กลุ่มยากระตุ้นบีตา 2 หรือไอพราโทรเพียมโบรไมด์ชนิดสูด อย่างใดอย่างหนึ่งหรือใช้ร่วมกัน ถ้ามีอาการหอบตอนดึก อาจให้ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์ยาว ในรายที่เป็นรุนแรงมักจะให้สเตียรอยด์ชนิดสูดร่วมกับยาข้างต้น

2. ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เช่น มีไข้หรือมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว ก็จะให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น อะม็อกซีซิลลิน, โคอะม็อกซิคลาฟ, อีริโทรไมซิน, ร็อกซิโทรไมซิน, ดอกซีไซคลีน, โคไตรม็อกซาโซล เป็นต้น) นาน 7-10 วัน

3. ในรายที่มีอาการหายใจหอบรุนแรง หรือสงสัยเป็นปอดอักเสบ ปอดทะลุ หรือภาวะหัวใจวาย แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้การรักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ อาจต้องให้ออกซิเจน ใส่ท่อหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจ

ผลการรักษา ขึ้นกับระยะและความรุนแรงของโรค ถ้าเป็นระยะแรก (FEV1 > 50% ของค่ามาตรฐาน) และผู้ป่วยสามารถเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาด ก็มักจะได้ผลดี โรคจะไม่ลุกลามรุนแรงมากขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ลุกลามจนถึงระยะรุนแรง (สมรรถภาพของปอดลดลงอย่างมากแล้ว คือ FEV1 < 30% ของค่ามาตรฐาน) ก็มักจะเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน (เช่น ภาวะการหายใจล้มเหลว ปอดอักเสบ ปอดทะลุ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอด เป็นต้น) ภายใน 1–5 ปี โดยเฉลี่ยผู้ป่วยทุกระดับของความรุนแรงมีอัตราตายมากกว่าร้อยละ 50 ใน 10 ปีหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยครั้งแรก

การดูแลตนเอง

หากมีอาการไอและเหนื่อยง่ายอย่างเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในบรรยากาศที่มีฝุ่นควันนานๆ  ควรปรึกษาแพทย์

หากตรวจพบว่าเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือถุงลมปอดโป่งพอง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ที่สำคัญคือ เลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงมลพิษในอากาศ ดื่มน้ำมาก ๆ (วันละ 8-12 แก้ว) เพื่อช่วยขับเสมหะ

2. ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ โดยเรียนรู้วิธีใช้ยาที่ถูกต้อง และติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง

3. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย 
    เจ็บหน้าอกมาก หายใจหอบหรือหายใจลำบาก 
    ไอมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว หรือไอเป็นเลือด
    เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
    มีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น นอนราบไม่ได้ (เพราะรู้สึกหายใจลำบาก) หรือเท้าบวม
    ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ 2-3 วันแล้วไม่ดีขึ้น 
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

1. ที่สำคัญคือ การไม่สูบบุหรี่

2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีมลพิษในอากาศ

3. หลีกเลี่ยงการใช้ฟืนก่อไฟภายในบ้านที่ขาดการถ่ายเทอากาศ

4. ถ้าเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคหืด ควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่สูบบุหรี่จัด ควรหมั่นพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเริ่มมีอาการไอบ่อยทุกวันโดยไม่มีสาเหตุอื่นชัดเจน

2. ผู้ที่เริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรังหรือภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังในระยะแรกเริ่ม ควรเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด จะช่วยให้อาการไม่ลุกลามมากขึ้น ผู้ป่วยควรติดตามการรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางช่วยให้เลิกบุหรี่ ให้ยาบรรเทาตามอาการ ประเมินสมรรถภาพของปอดและภาวะแทรกซ้อนเป็นระยะ ๆ

3. ผู้ป่วยและญาติควรศึกษาให้เข้าใจถึงธรรมชาติของโรคและแนวทางการดูแลรักษา ญาติควรเข้ามามีบทบาทในการให้กำลังใจผู้ป่วย ในการเลิกบุหรี่และการติดตามรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดูแลเรื่องโภชนาการ (ผู้ป่วยระยะรุนแรงมักมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งจะทำให้ซ้ำเติมอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น)

13
การเลือกชุดถ้วยชามอบให้ผู้ใหญ่

การเลือกชุดถ้วยชามอบให้ผู้ใหญ่เป็นของขวัญเป็นความคิดที่ดีมากค่ะ เพราะถ้วยชามเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันที่มีประโยชน์และยังสามารถเป็นของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย การเลือกที่เหมาะสมจะช่วยให้ของขวัญชิ้นนั้นดูมีคุณค่าและน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น


1. พิจารณาจากวัสดุ

เซรามิก: เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความทนทานสูงและสามารถใช้ได้กับเตาไมโครเวฟและเครื่องล้างจาน มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย

เมลามีน: เป็นวัสดุที่น้ำหนักเบาและทนทาน เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการยกของหนักๆ

แก้ว: ถ้วยชามที่ทำจากแก้วจะให้ความรู้สึกที่หรูหราและดูทันสมัย


2. เลือกจากดีไซน์และลวดลาย

ดีไซน์เรียบง่าย: เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ชอบความเรียบง่ายและคลาสสิก สามารถใช้งานได้ทุกโอกาส

ลวดลายแบบดั้งเดิม: ลวดลายแบบไทย, จีน, หรือญี่ปุ่นจะให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

ชุดถ้วยชามที่มีเรื่องราว: เช่น ชุดถ้วยชามที่วาดลวดลายด้วยมือ หรือชุดถ้วยชามที่เป็นงานคราฟต์ จะยิ่งทำให้ของขวัญชิ้นนั้นดูมีคุณค่ามากขึ้น


3. พิจารณาจากจำนวนชิ้น

ชุดเล็ก: เหมาะสำหรับมอบให้เป็นของขวัญสำหรับคนโสดหรือคู่รัก

ชุดใหญ่: เหมาะสำหรับมอบให้ครอบครัวใหญ่ที่ชอบการทำอาหารและสังสรรค์กัน


4. เคล็ดลับเพิ่มเติม

สี: เลือกสีที่เข้ากับบรรยากาศของบ้านผู้ใหญ่ หรือเลือกสีที่แสดงถึงความปรารถนาดี เช่น สีทองหรือสีแดงซึ่งสื่อถึงความร่ำรวยและโชคลาภ

บรรจุภัณฑ์: การเลือกกล่องบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและดูดีจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับของขวัญของคุณได้

การเลือกชุดถ้วยชามที่เหมาะสมจะช่วยให้ของขวัญชิ้นนั้นเป็นที่น่าจดจำและสร้างความสุขให้กับผู้รับได้อย่างแน่นอนค่ะ

14
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี สามารถเข้ารับการจัดฟันเด็กได้หรือไม่ ?

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการที่เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่เด็ก จะทำให้เด็กเติบโตมาเป้นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตามไปด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่คิดว่า ฟันน้ำนมของลูกไม่มีความสำคัญเพราะจะต้องมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ แต่หารู้ไม่ว่า การที่เด็กมีฟันน้ำนมที่ไม่ดีนั้น ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ที่จะงอกมาแทนที่ อาจจะส่งผลให้มีลักษณะฟันที่ผิดปกติได้ เพราะถ้าหากฟันน้ำนมเกิดหักหรือหลุดก่อนเวลา อาจจะทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมามีรูปร่างและลักษณะที่ผิดปกติได้ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของรูปร่างฟันตั้งแต่เด็กๆ


ซึ่งการรักษาและแก้ไขในเรื่องของรูปร่างฟันในเด็กนั้น เด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กๆในวัยประถมก็สามารถจัดฟันได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น หลายปัญหาอาจสามารถหลีกเลี่ยง หรือลดความรุนแรงได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะมีความสงสัยว่า ถ้าหากเราบุตรหลานของเรามีอายุต่ำกว่า 10 ปี และมีปัญหาในเรื่องของรูปร่างฟัน จะมาสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงประเด็นที่หลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางให้บุตรหลานของท่านได้ทำความเข้าใจถึงกระบวนการรักษาและผลลัพธ์ที่ดีในการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก


การจัดฟันในเด็กนั้น สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลายกรณี ซึ่งส่วนใหญ่ในวัยเด็กมักจะชื่นชอบรับประทานของหวานหรือลูกอม ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุในวัยเด็ก และเด็กบางคน อาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันได้ง่าย ดังนั้นการแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กที่ดีที่สุดก็คือ วิธีการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น จริงๆแล้ว เด็กสามารถเข้ารับการรักษาได้ตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ แต่ถ้าหากทันตแพทย์ประเมินเรื่องความร่วมมือในการรักษาแล้ว เด็กที่มีอายุ 7-8 ขวบจะดีที่สุด เพราะสามารถให้ความร่วมมือในการรักษาได้เป็นอย่างดี ซึ่งการจัดฟันในเด็กอายุที่ต่ำกว่า 10 ขวบนั้น ส่วนใหญ่จะใช้การจัดฟันที่เรียกว่า EF Line ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือที่เป็นเพียงชิ้นยางหลากหลายสี มีหลายขนาดตามอายุและขนาดของขากรรไกรเด็ก


คุณสมบัติของเครื่องมือชิ้นนี้ คือมันจะช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าของเด็กให้มาอยู่ถูกที่ถูกทาง และให้ใบหน้าดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น ยิ่งในเด็กที่มีพฤติกรรมการดูดนิ้ว ดูดขวดนม แน่นอนว่า อาจจะทำให้เกิดโครงสร้างของฟันที่มีความผิดปกติ ซึ่งการใช้เครื่องมือ EF Line สามารถแก้ไขได้ ทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าให้เข้าที่และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ สำหรับระยะเวลาในการใส่เครื่องมือ ก็จะขึ้นกับปัญหาฟันของเด็กแต่ละคน และความมีวินัยในการใส่เครื่องมือ คือ ต้องสวมใส่ให้ได้จำนวนชั่วโมงมากที่สุด กลางคืนนอนให้ใส่ตลอดเพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อระเบียบวินัยระหว่างการจัดฟัน


หากใครพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สาามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์ในวงการทันตกรรมมาอย่างอย่างยาวนาน สามารถปึกษาทันตแพทย์ถึงวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูกน้อยได้ ทันตแพทย์ของเรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมกับแนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวหากลูกน้อยของคุณเข้ารับการจัดฟันที่คลินิกเพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีฟันที่สวยงามตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย

15
บริหารจัดการอาคาร: ข้อควรระวังในการติดตั้งกล้องวงจรปิด

การติดกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจดูทรัพย์สินหรือสถานที่ของเรานั้น ถือว่าได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถติดตั้งได้ง่าย แถมยังหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพงอีกด้วย ซึ่งข้อดีหลักๆ ของการติดตั้งกล้องวงจรปิดเลยก็เพื่อป้องกันการเกิดการโจรกรรม เพราะเป็นตัวช่วยป้องกันการกระทำผิดได้ในเบื้องต้น หากมีกล้อวงจรปิดจับภาพอยู่อาจจะช่วยยับยั้งเหตุได้ ทั้งยัง ป้องกันเหตุร้ายในบ้านได้อีกด้วย ยิ่งถ้าหากบ้านไหนมีเด็กหรือผู้สูงอายุ เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน หรือหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ก็จะช่วยทำให้เราสามารถดูกล้องได้จากทุกที่ ซึ่งอาจช่วยให้เรารู้ตัวเร็วและระงับเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ทันท่วงที ซึ่งถือว่าการติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น จะช่วยสร้างความสบายใจให้กับเจ้าของทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อที่จะได้ความคุ้มค่าในการใช้งาน และดีต่อจุดมุ่งหมายของเราในการใช้ แต่ในขณะเดียวกัน การติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น แม้จะมีประโยชน์ต่อทรัพย์สินของเรา แต่ก็ยังมีข้อเสียและข้อความระวังในการติดตั้งเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของข้อควรระวังในการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนที่สนใจอยากจะติดตั้งกล้องวงจรปิด

 ต้องที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น สิ่งแรกที่ทึกคนจะต้องคำนึงก่อนก็คือเรื่องของปัญหาความเป็นส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดอาจนำไปสู่ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องมุมกล้อง หากติดตั้งที่บริเวณบ้านตัวเองก็ควรติดในมุมที่ไม่ส่องไปยังบ้านของเพื่อนบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังต้องมีเรื่องของรายจ่ายเพิ่มขึ้นมา เพราะการเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น ไม่ได้จบเพียงแค่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อกล้องและค่าช่างที่มาติดตั้งเพียงเท่านั้น เพราะถ้าหากกล้องเสียหรือมีปัญหาก็จะมีค่าซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นมา

แต่ถ้าหากเราเลือกบริการของบริษัทที่รับติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีบริการหลังการขายก็จะช่วยลดเรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้เพราะมีการรับประกันต่างๆได้ ซึ่งไม่ต้องมานั่งกังวลในปัญหาข้อนี้ และสำหรับข้อควรระวังในการติดตั้งกล้อง อันดับแรกเราจะต้องคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยในทรัพย์สินของเรา แม้กระทั่งในขั้นตอนของการติดตั้งกล้อง เราจะต้องเลือกบริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้ เพราะช่างที่ติดตั้งให้เรานั้นจะรู้รหัสผ่านในการเข้าดูกล้องวงจรปิดของเรา แม้ว่าเราก็สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังให้ดีเช่นกัน และข้อควรระวังอีกประการหนึ่งก็คือ แม้ว่าเราจะเป็นเจ้าของกล้องวงจรปิดก็ตาม แต่เราก็ไม่สามารถนำภาพของบุคคลไปเผยแพร่ต่อที่สาธารณะได้ ถ้าหากภาพนั้นยังไม่ได้รับการยินยอมจากบุคคลที่อยู่ในภาพ

ซึ่งต้องระมัดระวังในเรื่องของการเกิดคดีความด้วย อย่างไรก็ตาม ในการเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิด เราก็ต้องชั่งใจดูว่า มีข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังอะไรบ้าง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิดได้พอสมควร แต่โดยรวมแล้วหากพิจารณาดีๆ การติดตั้งกล้องวงจรปิดล้วนเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคมรอบข้างอยู่ไม่น้อย เพราะจะช่วยให้ทรัพย์สินของเรามีความปลอดภัย แถมยังสร้างความสะดวกสบายใจ เวลาที่เราไม่ได้อยู่บ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ติดตั้งในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ทั่วถึงก็จะเป้นผลดีต่อทรัพย์สินของเราเอง

 หากสนใจจะติดตั้งกล้องวงจรปิด สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้เพราะเราเป็นผู้ให้บริการในเรื่องของความปลอดภัยของอาคารบ้านเรือน มีบริการติดตั้งระบบต่างๆภายในที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าต้นกำลังและระบบจ่ายไฟฟ้าภายในอาคาร ระบบสุขาภิบาล และระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบปรับอากาศ และหมุนเวียนอากาศ ระบบงานบำรุงรักษาโครงสร้างอาคาร ระบบป้องกันเพลิง และระบบสื่อสาร และกล้องวงจรปิด แถมยังสามารถวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารที่มีประสิทธิภาพ และอยู่ในงบประมาณที่สมเหตุสมผล ภายใต้ความปลอดภัยเพื่อให้ลูกค้ามีความสบายใจ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด แถมยังมีบริการดูแล ซ่อมบำรุงให้ตามระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย

หน้า: [1] 2 3 ... 33